ด้วยรัฐบาลไทยได้ลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. ๒๕๓๘ ร่วมกับรัฐบาลกัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๓๘ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำเนินความร่วมมือในทุกด้านของการพัฒนาที่ยั่งยืน การบริหารจัดการและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรที่เกี่ยวข้องของลุ่มแม่น้ำโขง เป็นผลให้มีการก่อตั้งคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง มีสถานะเป็นองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและความร่วมมือให้เป็นไปตามพันธกรณีฯ โดยโครงสร้างการบริหารของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง แบ่งออกเป็นองค์กรบริหารถาวร ๓ องค์กร คือ ๑) คณะมนตรี ๒) คณะกรรมการร่วม และ ๓) สำนักงานเลขาธิการ มีหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ทำหน้าที่บริหารงาน และมติที่ประชุมคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ ๓๐ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ได้อนุมัติขอบเขตการดำเนินงานของตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนต่อไป โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง ๓ ปี (๑๗ มกราคม ๒๕๖๘ – ๑๖ มกราคม ๒๕๗๑) ซึ่งผู้มีสิทธิสมัครจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงของคณะมนตรี คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงในการหมุนเวียนการดำรงตำแหน่งดังกล่าวตามลำดับตัวอักษรแรกของชื่อประเทศสมาชิก โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย จะเป็นหน่วยงานหลักในการเปิดรับสมัคร ดำเนินกระบวนการสรรหาและเสนอชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติและความเหมาะสม เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงต่อไป จึงประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติและความเหมาะสม เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ดังต่อไปนี้
๑. ตำแหน่งที่จะแต่งตั้ง
ตำแหน่งหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง จำนวน ๑ ตำแหน่ง
๒. หน้าที่ความรับผิดชอบ
ดำเนินงานในการบริหารสำนักงานเลขาธิการตามภารกิจของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงผ่านแผนกลยุทธ์ แผนดำเนินงาน และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรของสำนักงานเลขาธิการ (การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล งบประมาณ เทคโนโลยี และองค์ความรู้) ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 30 (หน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการ) ของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2538 และกฎข้อที่ 2 ของระเบียบปฏิบัติของสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (ความรับผิดชอบและหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการ) อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเพื่อดำเนินการตามแผนงานให้สำเร็จ และเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ของแผนกลยุทธ์คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง รวมทั้งการดำเนินงานขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับลุ่มแม่น้ำโขง
ดังรายระเอียดตามเอกสารแนบ