เลขาธิการ สทนช. ร่วมติดตาม “นายกรัฐมนตรี” ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำคลองลัดโพธิ์ฯ จ.สมุทรปราการ
พร้อมเร่งแผนการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยในโอกาสติดตามคณะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำผ่านคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรปราการว่า โครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นอึกหนึ่งโครงการสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบน้ำท่วมแก่พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2549 ถึงปัจจุบัน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15และช่วยร่นระยะทางการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาจาก 18 กิโลเมตร เหลือ 600 เมตร ลดเวลาการเดินทางของน้ำจาก 5 ชั่วโมง เหลือเพียง 10 นาที ในและในช่วงฤดูฝนปี 2561 ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำที่ระบายผ่านคลองลัดโพธิ์ฯ ถึง410 ล้าน ลบ.ม.ช่วยลดผลกระทบน้ำล้นตลิ่งที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างได้เป็นอย่างดี
“การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการในช่วงที่ผ่านมา มีหน่วยงานที่เข้าไปดำเนินการรวม 5 หน่วยงานคิดเป็นโครงการทั้งหมด45 โครงการ สามารถเพิ่มความจุเก็บกักน้ำรวมทั้งสิ้น 1.30 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับประโยชน์ 44,986 ไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ 56,265 ครัวเรือนโดยมีโครงการสำคัญ อาทิสถานีสูบน้ำพร้อมอาคารประกอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำชลหารพิจิตร กรมชลประทาน พื้นที่รับประโยชน์ 30,000 ไร่ ครัวเรือนได้รับประโยชน์ 2,000 ครัวเรือน และเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหน้าศาลากลางโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ป้องกันตลิ่งเป็นระยะทาง 333 เมตร” นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับในปี2562มีแผนดำเนินการทั้งสิ้น 32 โครงการ งบประมาณ 297 ล้านบาทพื้นที่รับประโยชน์ 650 ไร่ พื้นที่ได้รับการป้องกันผลกระทบ 14,433 ไร่ เช่น โครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำเจริญราษฎร์ อ.เมืองก่อสร้างศูนย์บริหารจัดการคุณภาพน้ำ และงานซ่อมแซมระบบชลประทาน เป็นต้น ส่วนแผนงานสำคัญ ปี2563-2565 ของจ.สมุทรปราการ ประกอบด้วย แผนงานปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง เช่น ปรับปรุงคลองประเวศบุรีรมย์ คลองพระองค์ไชยานุชิต คลองอุดมชลจร คลองสำโรง คลองด่าน และก่อสร้างประตูระบายน้ำปากคลองด่าน เพื่อเพิ่มศักยภาพการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีแผนงานปรับปรุงโครงข่ายระบบชลประทานฝั่งตะวันตก เช่น ปรับปรุงคลองหัวกระบือ – คลองขุนราชพินิจใจซึ่ง สทนช.จะประสานหน่วยงานทึ่เกี่ยวข้องเร่งขยายผลจากปรัชญาการบรรเทาอุทกภัยโดยขุดขยายช่องลัด เป็นศาสตร์พระราชาที่ประสบความสำเร็จ ที่ทุกส่วนราชการควรนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และภูมิสังคม เช่น ขุดลอก/ปรับปรุงคลองลัดธรรมชาติเดิมในแม่น้ำท่าจีน เป็นต้น
เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงบ่ายได้ติดตามคณะนายกรัฐมนตรีเพื่อติดตามความก้าวหน้าแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรีโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดำเนินการป้องกันพื้นที่สำคัญ ด้วยระบบระบายน้ำของพื้นที่ปิดล้อม เช่น วัดปรมัยยิกาวาส รวมถึงทำเขื่อนป้องกันตลิ่งเพื่อแก้ไขปัญหาการสไลด์ของตลิ่งหลายแห่ง ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปได้เพียง 140 เมตร บริเวณแม่น้ำลัดเกร็ด วัดฉิมพลี ม.1 ต.เกาะเกร็ดขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ติดตามเฝ้าระวังอุทกภัย และการแจ้งเตือนในพื้นที่เกาะเกร็ดอย่างต่อเนื่อง อาทิ การบูรณาการข้อมูลระบบสารสนเทศในการวัดค่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำแบบทันท่วงที ประชาสัมพันธ์ข้อมูลปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีตรวจวัดบางไทร การพยากรณ์ระดับน้ำขึ้นลงแบบรายเดือนของกรมอุทกศาตร์ทหารเรือ การพยากรณ์ระดับน้ำขึ้นลงแบบรายวันของกรุงเทพมหานคร ให้ทราบทุกวันผ่านช่องทาง ApplicationLINE เป็นต้น
“ที่ผ่านมาการพัฒนาแหล่งน้ำในจังหวัดนนทบุรี มีหน่วยงานที่เข้าไปดำเนินการรวม 6 หน่วยงาน มีโครงการทั้งหมดรวมจำนวน 93 โครงการ สามารถเพิ่มความจุเก็บกักน้ำรวมทั้งสิ้น 1.39 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 30,436 ไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 10,097ครัวเรือนเช่น โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนบางศรีเมือง อำเภอเมือง พื้นที่ได้รับการป้องกัน 7,410 ไร่เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา (แม่น้ำลัดเกร็ด) บริเวณวัดฉิมพลี(เพิ่มเติม) ม.1 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องสูบน้ำประตูระบายน้ำคลองบางตลาดจังหวัดนนทบุรีพื้นที่รับประโยชน์ 4,600 ไร่เป็นต้น” นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับการพัฒนาด้านน้ำของ จ.นนทบุรีในปี 2562 กรอบวงเงินงบประมาณ 150 ล้านบาท รวมพื้นที่รับประโยชน์ 7,960 ไร่ป้องกันตลิ่ง 928 เมตรส่วนใหญ่เป็นงานซ่อมแซมดำเนินการโดยกรมชลประทานขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ทำเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ อำเภอปากเกร็ดอำเภอเมือง เขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ขณะที่แผนงานสำคัญใน ปี2563-2565 ของ จ.นนทบุรี จำนวน 6 โครงการ อาทิ การป้องกันน้ำท่วมและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดนนทบุรีตั้งแต่วัดแสงสิริธรรมถึงอาคารบังคับน้ำคลองวัดเชิงเลน 2 ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำคลองบางกอกน้อย ระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนบางเลน จ.นนทบุรี เป็นต้นอย่างไรก็ตาม สทนช.จะประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาและวางแผนการป้องกันน้ำท่วมและการป้องกันการสไลด์ของตลิ่ง บริเวณเกาะเกร็ด เช่นการทำประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ และเขื่อนป้องกันตลิ่งซึ่งต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยมอบ จ.นนทบุรี เป็นเจ้าภาพบูรณาการ และจัดทำแผนงานให้เป็นรูปธรรมต่อไป
………………………………
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
24 ธันวาคม 2561