สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พุทธศักราช 2562 ณ วัดนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดย ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานและผู้อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พุทธศักราช 2562 ณ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาถ้วนไตรมาส ได้รับอานิสงส์ตามพระบรมพุทธานุญาต โดยมี พระเทพปริยัติเมธี เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าจังหวัดนครสวรรค์ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการ สทนช. นายประดับ กลัดเข็มเพชร รองเลขาธิการ สทนช. คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สทนช. และพุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียงจำนวนมาก เข้าร่วมพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน พร้อมทั้งเครื่องอัฐบริขารและเงินถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมมอบเงินบำรุงการศึกษาแก่โรงเรียนสตรีนครสวรรค์และโรงเรียนนครสวรรค์ โดยมียอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธาในทุกภาคส่วนร่วมบริจาคผ่าน สทนช. จำนวนทั้งสิ้น 1,421,454.25 บาท
“วัดนครสวรรค์” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ในตลาดปากน้ำโพ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อศรีสวรรค์ ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครสวรรค์และเป็นที่เคารพสักการะของชาวเมือง เดิมวัดนครสวรรค์มีนามว่า “วัดหัวเมือง” เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณ จากหลักฐานโบราณวัตถุ น่าเชื่อว่าสร้างขึ้นในตอนปลายสมัยกรุงสุโขทัย วัดหัวเมืองได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ.1972 ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (พระเจ้าสามพระยา) อันเป็นรัชกาลที่ 7 แห่งกรุงศรีอยุธยา ก่อนจะเปลี่ยนชื่อจากวัดหัวเมืองมาเป็นวัดนครสวรรค์ วัดหัวเมืองมีชื่ออีกชื่อหนึ่งคือ “วัดโพธิลังการาม” เนื่องจากได้มีผู้นำต้นโพธิ์จากประเทศศรีลังกามาปลูกที่หน้าวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 ต้น และมีเจดีย์ใหญ่อยู่ใกล้ต้นโพธิ์นั้น ปัจจุบันทั้งเจดีย์และต้นโพธิ์ไม่มีให้เห็นแล้ว รวมทั้งสายน้ำได้เปลี่ยนทิศทางห่างออกไปจากวัดประมาณ 100 เมตร วัดหัวเมืองได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดนครสวรรค์อย่างเป็นทางการในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อของมณฑลนครสวรรค์และจังหวัดนครสวรรค์ที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2435 ทางราชการได้เคยใช้สถานที่วัดนี้ประกอบพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา (มีศิลาจารึกเป็นหลักฐาน) เป็นที่พำนักอยู่จำพรรษาของเจ้าคณะจังหวัดเป็นสถานที่สอบธรรมและบาลีสนามหลวงตลอดมา นอกจากนี้ วัดยังได้เปิดสอนพระปริยัติธรรมตลอดมาทุกปี ทั้งแผนกธรรมและบาลี รวมทั้งเปิดสอนแผนกสามัญใน พ.ศ.2513 เป็นที่ตั้งโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ที่ทำการของพุทธสมาคมมูลนิธิปากน้ำโพประชานุเคราะห์ และศูนย์บริการประชาชนของตำรวจ ซึ่งทางวัดได้ให้การอนุเคราะห์ด้วยดีตลอดมา สำหรับพระภิกษุอยู่จำพรรษาที่วัดนี้ปีละประมาณ 80 รูป สามเณร 45 รูป