เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2563 เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2563 ร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาความก้าวหน้าการดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในการนี้ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ร่วมประชุมและรายงานความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 38 โครงการและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ EEC ด้วยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานในพื้นที่อีอีซี ว่า การดำเนินงานในพื้นที่ดังกล่าว นับว่าเป็นอนาคตของประเทศไทยที่ต้องช่วยกันให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องตามระเบียบและเป็นไปตามแผนงานทุกประการ ซึ่งจะต้องหาวิธีการให้มีการลงทุนในพื้นที่อีอีซีให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศให้มากขึ้นด้วยโดยที่ประชุมได้พิจารณาการพัฒนาโครงข่าย 5G และโครงการเขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) รวมทั้งรับทราบการขอรับส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ช่วง 11 เดือน (ม.ค.- พ.ย. 2563) มีทั้งสิ้น 387 โครงการ มูลค่าลงทุนสูงถึง 1.28 แสนล้านบาท เทียบเท่าครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั้งประเทศ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศ 76,000 ล้านบาท นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบความก้าวหน้าแผนพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ อีอีซี โดยแผนเกษตรในอีอีซี ใช้ความต้องการตลาดนำ (Demand Pull) เน้นเชื่อมโยงอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร พัฒนาสินค้าตรงความต้องการ ใช้เทคโนโลยีสร้างรายได้ (Technology Push) ให้สินค้าเกษตรมีคุณภาพดี ราคาสูง ให้ความสำคัญ 5 คลัสเตอร์ ได้แก่ ผลไม้ ประมงเพาะเลี้ยง พืชชีวภาพ พืชสมุนไพร ปศุสัตว์ เพื่อยกระดับการผลิตตรงความต้องการ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน และมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้แผนฯ เป็นกรอบในการขอรับงบประมาณปี 2565 เป้าหมายหลักคือ ต้องการยกระดับภาคเกษตร ใช้เทคโนโลยีนำการผลิต สินค้าตรงตามความต้องการของตลาด และการเพิ่มรายได้ภาคเกษตรให้ใกล้เคียงกับภาคอุตสาหกรรมขอบคุณข้อมูลและภาพ จาก www.thaigov.go.th